สัญลักษณ์ FSC ที่พบในผลิตภัณฑ์แปรรูปจากไม้คืออะไร

สัญลักษณ์ FSC คืออะไร มีที่มาอย่างไร?  


สัญลักษณ์ FSC ที่พบในผลิตภัณฑ์แปรรูปจากไม้คือเครื่องหมายรับรองที่ออกโดยองค์กร Forest Stewardship Council (FSC) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรระดับนานาชาติ ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 สำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Bonn ประเทศเยอรมนี สัญลักษณ์นี้รับรองว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผลิตจากไม้ที่มาจากป่าที่มีการจัดการอย่างยั่งยืน โดย FSC ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรระดับโลกอย่าง WWF (World Wildlife Federation) ในการจัดตั้งขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมการจัดการป่าไม้ที่เหมาะสมต่อสิ่งแวดล้อม เป็นประโยชน์ต่อสังคม และมีความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจทั่วโลก สัญลักษณ์ FSC ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายรับรองว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ มาจากแหล่งที่มีการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน โดยผ่านการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานที่เข้มงวดของ FSC


ความร่วมมือของกลุ่มต่างๆ ใน FSC   

• กลุ่มอนุรักษ์ป่าไม้และสิ่งแวดล้อม
• ผู้ค้าไม้
• ผู้ผลิตสินค้าจากไม้
• องค์การผู้ให้การรับรองไม้หรือผลิตภัณฑ์จากไม้

ประเภทของสัญลักษณ์ FSC 


[รูป]


FSC ได้ทำระบบการรับรองเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จากป่าไม้มาจากแหล่งที่มีการจัดการอย่างรับผิดชอบ โดยมีฉลาก FSC หลัก 3 ประเภท  สัญลักษณ์ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เราๆ ท่านๆ ในฐานะผู้บริโภค สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากป่าไม้มีที่มาหลากหลาย ไม่ได้มาจากแหล่งเดียวกันทั้งหมด การแบ่งประเภทช่วยให้ผู้บริโภคทราบถึงองค์ประกอบและที่มาของวัสดุในผลิตภัณฑ์นั้นๆ


สัญลักษณ์ FSC 100%  

ฉลากนี้แสดงว่าวัสดุทั้งหมดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์มาจากป่าที่ได้รับการรับรองจาก FSC ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากนี้ทำจากไม้หรือเส้นใยที่ตรงตามมาตรฐานของ FSC ในด้านการจัดการป่าไม้อย่างรับผิดชอบ ซึ่งรับประกันว่าป่าได้รับการจัดการในแนวทางที่รักษาความหลากหลายทางชีวภาพและเป็นประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่น หมายความว่าป่าเหล่านั้นถูกจัดการอย่างดี คำนึงถึงความหลากหลายทางชีวภาพ และเอื้อประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่น



สัญลักษณ์ FSC Recycled   

ฉลากนี้ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล 100% โดยรับรองว่าไม้หรือเส้นใยในผลิตภัณฑ์มาจากของเสียหลังการบริโภคหรือของเสียจากอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นของเหลือใช้จากผู้บริโภคหรือจากโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยลดความต้องการวัสดุใหม่และช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตินี่เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่ และช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติได้อีกทางหนึ่ง

สัญลักษณ์ FSC Mix    

ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากนี้ประกอบด้วยวัสดุผสมจากป่าที่ได้รับการรับรอง FSC วัสดุรีไซเคิล และ (หรือ)ไม้ควบคุม โดยไม้ควบคุมไม่ได้รับการรับรองเต็มรูปแบบ แต่ได้รับการตรวจสอบเพื่อหลีกเลี่ยงแหล่งที่ไม่เป็นที่ยอมรับ เช่น ไม้ที่ถูกตัดอย่างผิดกฎหมาย หรือไม้จากพื้นที่ที่ต้องอนุรักษ์สูง ฉลาก FSC Mix มีหลักรับประกันว่าอย่างน้อย 70% ของไม้หรือเส้นใยในผลิตภัณฑ์เป็นไม้ที่ได้รับการรับรอง FSC หรือเป็นวัสดุรีไซเคิล ส่วนที่เหลืออีก 30% อาจเป็นไม้ควบคุม


กฎ 10 ข้อในการพิจารณามาตราฐาน FSC 


1. ถูกต้องตามกฎหมาย

การจัดการป่าไม้ต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น ระดับประเทศ และระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงสนธิสัญญาและข้อตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศนั้นๆ เป็นภาคี ผู้จัดการป่าไม้ต้องชำระค่าธรรมเนียม ค่าภาษี และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนดอย่างครบถ้วน ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของอนุสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ เช่น CITES, ILO และอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ


2. การจ้างงานอย่างเป็นธรรม

องค์กรต้องรักษาหรือส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีทั้งทางสังคมและคนงาน ต้องมีการจ่ายค่าแรงหรือค่าจ้างอย่างเป็นธรรม จัดสวัสดิการให้กับคนงาน และปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานที่เกี่ยวข้อง มีการฝึกอบรมคนงานเกี่ยวกับการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัย และจัดหาอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม


3. เคารพสิทธิของคนพื้นเมืองในท้องที่

องค์กรต้องระบุและยืนยันสิทธิตามกฎหมายและจารีตประเพณีของชนพื้นเมืองในการเป็นเจ้าของ ใช้ประโยชน์ และจัดการที่ดิน ดินแดน และทรัพยากรที่ได้รับผลกระทบจากกิจกรรมการจัดการ ต้องให้การยอมรับและคุ้มครองสิทธิของชนพื้นเมืองในพื้นที่


4. เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน

องค์กรต้องมีส่วนร่วมในการรักษาหรือส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีทางสังคมและเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่น ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนโดยรอบพื้นที่ป่า พิจารณาจ้างแรงงานในท้องถิ่นเป็นอันดับแรก และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการป่าไม้


5. การใช้ผลประโยชน์จากป่าไม้

องค์กรต้องจัดการการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายจากป่าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาหรือเพิ่มความสามารถทางเศรษฐกิจในระยะยาว รวมทั้งผลประโยชน์ทางสิ่งแวดล้อมและสังคม ต้องใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน ลดการสูญเสียผลผลิต และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ


6. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

องค์กรต้องรักษา อนุรักษ์ ฟื้นฟูบริการทางระบบนิเวศและคุณค่าทางสิ่งแวดล้อมของพื้นที่จัดการ และต้องหลีกเลี่ยง ซ่อมแซม หรือบรรเทาผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม ต้องตระหนักถึงการรักษาสมดุลทางนิเวศ ปกป้องพื้นที่หายาก หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีอันตราย และกำจัดสารเคมีที่ใช้แล้วอย่างเหมาะสม


7. มีแผนงานในการจัดการ

ต้องมีการเขียนแผนการจัดการที่เหมาะสมกับขนาดและความเข้มข้นของการดำเนินงาน นำไปปฏิบัติ และปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ แผนการจัดการควรระบุวัตถุประสงค์ระยะยาวของการจัดการและวิธีการบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านั้นอย่างชัดเจน แผนควรครอบคลุมเรื่องเป้าหมายการจัดการ การตัดไม้ การลงทุน การป้องกันสิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์พืชและสัตว์หายาก


8. การติดตามและประเมินผล

ต้องมีการดำเนินการติดตามตรวจสอบที่เหมาะสมกับขนาดและความเข้มข้นของการจัดการป่าไม้ เพื่อประเมินสภาพของป่า ผลผลิตจากป่า ห่วงโซ่การควบคุม กิจกรรมการจัดการ และผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม การติดตามควรทำอย่างสม่ำเสมอ ครอบคลุมเรื่องผลผลิตไม้ อัตราการเติบโต การเปลี่ยนแปลงของพืชและสัตว์ ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงกระบวนการควบคุมการเคลื่อนย้ายของผลิตภัณฑ์ไม้ที่ได้รับการรับรอง


9. ใส่ใจป่าไม้ที่มีคุณค่าด้านการอนุรักษ์สูง

กิจกรรมการจัดการในป่าที่มีคุณค่าด้านการอนุรักษ์สูงต้องรักษาหรือส่งเสริมคุณลักษณะที่กำหนดป่าเหล่านั้น ต้องดูแลหรือส่งเสริมพื้นที่ป่าไม้ที่มีคุณค่าสูงด้านการอนุรักษ์ (HCVF) โดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อบริเวณใกล้เคียง การตัดสินใจเกี่ยวกับป่าที่มีคุณค่าด้านการอนุรักษ์สูงควรพิจารณาด้วยความระมัดระวังเสมอ


10. การดำเนินกิจกรรมอย่างสอดคล้อง

การจัดการสวนป่าควรดำเนินการตามหลักการและเกณฑ์ข้อ 1-9 รวมถึงหลักการข้อ 10 และเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง สวนป่ามีศักยภาพในการสร้างประโยชน์ทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ และสวนป่าสามารถช่วยตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์จากป่าของโลกได้ อย่างไรก็ตาม การจัดการสวนป่าควรเป็นไปในลักษณะที่เสริมการจัดการป่าธรรมชาติ ไม่ใช่ทดแทน ช่วยลดแรงกดดันต่อป่าธรรมชาติ และส่งเสริมการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าธรรมชาติ อีกทั้งยังต้องการวางแผนและบริหารจัดการสวนป่าต้องสอดคล้องกับหลักการและเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

หลังจากนี้เมื่อคุณเห็นผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ FSC แล้วซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ก็เป็นหนึ่งในวิธีการที่คุณจะสามารถสนับสนุน และส่งเสริมองค์กรที่พยายามผลิตสินค้าที่มีการจัดการกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่นยืน เป็นวิธีหนึ่งที่คุณจะมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่าไม้และสนับสนุนการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน อาจจะเป็นก้าวเล็กๆ แต่หากรวมกันหลายๆก้าว ก็จะสร้าง Impact ใหญ่ๆ ให้กับสังคมได้